การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดงาน “Hua Lamphong in Your Eyes” ในวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ถึง 16 มกราคม 2565

   โดยกิจกรรมหลักในงานคือ จะให้ไปชมถ่ายรูป 10 จุดสำคัญของสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ดังนี้

1.) อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง เป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีตรึงหมุดรางทอง รางเงิน ติดกับไม้หมอนมะริดคาดเงิน และเปิดการเดินรถไฟหลวงในราชอาณาจักรสายแรก เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา

2.) สะพานลำเลียงจดหมาย เชื่อมต่ออาคารไปรษณีย์ตั้งอยู่ปลายชานชาลาที่ 4 ของสถานีกรุงเทพ

3.) ลานน้ำพุหัวช้าง ซึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยทางอากาศ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

4.) ป้ายด้านหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตรงด้านหน้าของสถานีจะมีตัวอักษรปูนปั้นว่า "สถานีกรุงเทพ"

5.) สถาปัตยกรรมภายนอกสถานีกรุงเทพ ตัวอาคารเป็นรูปโดมสไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะยุคเรอเนสซองส์

6.) ระเบียงด้านหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สวยงามด้วยกระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่า ๆ กับตัวอาคารสถานีที่เน้นลักษณะภายนอกของมนุษย์และธรรมชาติ

7.) โถงกลางสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) บรรยากาศร่วมสมัย แบบสไตล์ตะวันตก งดงามด้วยการตกแต่งภายในสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานศิลปะแบบคลาสสิก (Classicism) ด้วยการใช้เสาคู่ลอยตัวระเบียงไอโอนิก (Ionic) การตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น และศิลปะแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau)

8.) โรงแรมราชธานี อดีตโรงแรมหรูที่เคยอยู่คู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)

9.) เก้าอี้วงรี สัญลักษณ์ประจำสถานีรถไฟ

10.) ชม 2 รถไฟขบวนพิเศษ คือ

- รถจักรไอน้ำแปซิฟิก รุ่นเลขที่ 824,850 ที่ถูกใช้การหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รถจักรไอน้ำทั้ง 2 คันนี้นำมาใช้งานในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2492 โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงต่อมาได้ดัดแปลงให้ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงแทนในปี พ.ศ.2514 ปัจจุบันการรถไฟฯ ใช้ทำเป็นขบวนรถนำเที่ยวในโอกาสพิเศษที่สำคัญๆ ปีละ 6 ครั้ง

- รถไฟไทยสุดหรู “SRT Prestige” ขบวนเดียวในประเทศไทย โดยดัดแปลงจากรถ JR West Blue Train ที่ญี่ปุ่นได้มอบให้

>> และเมื่อมีการเช็คอินครบทั้ง 10 จุด ก็สามารถไปแลกของที่ระลึกเป็น แสตมป์รูปสถานีหัวลำโพงได้เลย


" Hua Lamphong in Your Eyes : ความงาม วิจิตรศิลป์ สถาปัตย์ "

 


พอเข้ามาในสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ก็ไปลงทะเบียนรับเอกสารก่อน โดยจะให้เราเดินไปยังจุดสำคัญต่างๆ แล้วให้เจ้าหน้าที่แสตมป์ตราประทับให้


10 จุดเช็คอินที่ต้องไปครับ เรียกว่าได้เดินทั่วสถานีเลยทีเดียว


พอไป Stamp เช็คอินครบ 10 จุด ก็มาแลกรับแสตมป์ชุดพิเศษเป็นที่ระลึกจากการรถไฟฯ


จุดเช็คอินที่ 1

อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง เป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีตรึงหมุดรางทอง รางเงิน ติดกับไม้หมอนมะริดคาดเงิน และเปิดการเดินรถไฟหลวงในราชอาณาจักรสายแรก เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา


จุดเช็คอินที่ 1

อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง เป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีตรึงหมุดรางทอง รางเงิน ติดกับไม้หมอนมะริดคาดเงิน และเปิดการเดินรถไฟหลวงในราชอาณาจักรสายแรก เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา


การเดินทางไปยัง "อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง" แนะนำให้เดินไปตามชานชาลาที่ 8 สุดทางเลยครับ


จุดเช็คอินที่ 2

สะพานลำเลียงจดหมาย เชื่อมต่ออาคารไปรษณีย์ตั้งอยู่ปลายชานชาลาที่ 4 ของสถานีกรุงเทพ


จุดเช็คอินที่ 3

ลานน้ำพุหัวช้าง ซึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยทางอากาศ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2


จุดเช็คอินที่ 3

ลานน้ำพุหัวช้าง ซึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยทางอากาศ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2


จุดเช็คอินที่ 4

ป้ายด้านหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตรงด้านหน้าของสถานีจะมีตัวอักษรปูนปั้นว่า "สถานีกรุงเทพ"


จุดเช็คอินที่ 5

สถาปัตยกรรมภายนอกสถานีกรุงเทพ ตัวอาคารเป็นรูปโดมสไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะยุคเรอเนสซองส์


จุดเช็คอินที่ 6

ระเบียงด้านหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สวยงามด้วยกระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่า ๆ กับตัวอาคารสถานีที่เน้นลักษณะภายนอกของมนุษย์และธรรมชาติ


ทางขึ้นระเบียงด้านหน้าสถานี จะอยู่ใน "พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย" ครับ


ภายในพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย ก็มีโมเดลรถไฟมากมาย


รวมของใช้เก่าๆ


จุดเช็คอินที่ 6

ระเบียงด้านหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สวยงามด้วยกระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่า ๆ กับตัวอาคารสถานีที่เน้นลักษณะภายนอกของมนุษย์และธรรมชาติ


จุดเช็คอินที่ 7

โถงกลางสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) บรรยากาศร่วมสมัย แบบสไตล์ตะวันตก งดงามด้วยการตกแต่งภายในสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานศิลปะแบบคลาสสิก (Classicism) ด้วยการใช้เสาคู่ลอยตัวระเบียงไอโอนิก (Ionic) การตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น และศิลปะแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau)


บูธงาน Hua Lamphong in Your Eyes

 


จุดเช็คอินที่ 8

โรงแรมราชธานี อดีตโรงแรมหรูที่เคยอยู่คู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)


จุดเช็คอินที่ 8

โรงแรมราชธานี อดีตโรงแรมหรูที่เคยอยู่คู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)


จุดเช็คอินที่ 9

เก้าอี้วงรี สัญลักษณ์ประจำสถานีรถไฟ


จุดเช็คอินที่ 10

รถจักรไอน้ำแปซิฟิก รุ่นเลขที่ 824,850 ที่ถูกใช้การหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รถจักรไอน้ำทั้ง 2 คันนี้นำมาใช้งานในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2492 โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงต่อมาได้ดัดแปลงให้ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงแทนในปี พ.ศ.2514 ปัจจุบันการรถไฟฯ ใช้ทำเป็นขบวนรถนำเที่ยวในโอกาสพิเศษที่สำคัญๆ ปีละ 6 ครั้ง


รถจักรไอน้ำแปซิฟิกอีกคันหนึ่ง


Classic สุดๆ


รถจักรไอน้ำแปซิฟิก


รถจักรไอน้ำแปซิฟิกโชว์ตัว 2 ขบวน


รถจักรไอน้ำแปซิฟิก


รถจักรไอน้ำแปซิฟิก


จุดเช็คอินที่ 10

รถไฟไทยสุดหรู “SRT Prestige” ขบวนเดียวในประเทศไทย โดยดัดแปลงจากรถ JR West Blue Train ที่ญี่ปุ่นได้มอบให้

 


จุดเช็คอินที่ 10

รถไฟไทยสุดหรู “SRT Prestige” ขบวนเดียวในประเทศไทย โดยดัดแปลงจากรถ JR West Blue Train ที่ญี่ปุ่นได้มอบให้

 


ภายในรถไฟ SRT Prestige


ภายในรถไฟ SRT Prestige


ภายในรถไฟ SRT Prestige


ของที่ระลึกเป็น แสตมป์รูปสถานีหัวลำโพง


ของที่ระลึกเป็น แสตมป์รูปสถานีหัวลำโพง


ของที่ระลึกเป็น แสตมป์รูปสถานีหัวลำโพง


ที่นี่กรุงเทพ (BANGKOK) !!


ผังตารางเวลาการเดินรถไฟ


ชุมทางแก่งคอย :D


Local Train 


Copyright © 2566 - 2568. All rights reserved.