วันนี้ผมจะพาทุกท่านเที่ยว จ.สมุทรปราการ แบบไปเช้าเย็นกลับ 1 วัน กับ 4 จุดเช็คอินเด็ดๆ

(1) ป้อมพระจุลจอมเกล้า และ พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง

     ดูแลโดยกองทัพเรือ มีความสำคัญคือ

- ป้อมพระจุลจอมเกล้า สร้างในสมัย ร.5 เพื่อป้องกันการรุกรานจากอังกฤษและฝรั่งเศส

- เรือหลวงแม่กลอง เป็นเรือรบของจริง ได้ร่วมรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา ที่ปลดประจำการแล้ว

(2) องค์พระสมุทรเจดีย์ และ ป้อมผีเสื้อสมุทร

(3) หอชมเมืองสมุทรปราการ

(4) บางกระเจ้า

>> ดาวน์โหลด แผนที่ในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด คลิกที่นี่ครับ !! <<

ดาวน์โหลดไฟล์แนบ คลิ๊กที่นี่ !!

แผนผังป้อมพระจุลจอมเกล้า จะเห็นว่าภายในค่อนข้างซับซ้อนเลย


บริเวณทางเข้าป้อมฯ


แต่ละป้อมจะมี " ปืนเสือหมอบ " ประจำการอยู่ แล้วก็เป็นห้องเก็บกระสุนมากมาย


ปืนเสือหมอบ


รายละเอียดของปืนเสือหมอบ


บริเวณห้องเก็บกระสุน


บริเวณโถงกลาง


พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


ในบริเวณติดกันจะเป็น " พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง " สามารถขึ้นไปเยี่ยมชมบนเรือได้เลย


รายละเอียดของเรือหลวงแม่กลอง ซึ่งต่อที่อู่เรืออุระงะ เมืองโยโกซูกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ.2479


สามารถเดินเยี่ยมชมบนเรือได้ตามอัธยาศัยเลย ตั้งแต่เวลา 8:00 - 20:00 น.


ป้อมปืนบนเรือรบ


มีเรือชูชีพ


บริเวณห้องครัวของเรือ


หม้อหุงข้าวใบใหญ่มาก


มีจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลลงสู่อ่าวไทย สามารถเดินไปได้ ไม่ไกลมาก


ที่จุดนี้ จะมองเห็นเรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่ แล่นไปมาตลอดเวลาเลยครับ


จุดเช็คอินถัดมา พวกเรามา " สักการะองค์พระสมุทรเจดีย์ " กันก่อน

องค์พระสมุทรเจดีย์ หรือ พระเจดีย์กลางน้ำ ในอดีตสร้างอยู่บนเกาะกลางน้ำ แต่ในปัจจุบันชายตลิ่งตื้นเขิน จนเป็นแผ่นดินเชื่อมกับตัวเกาะไปแล้ว


ไหว้พระกันครับ


จากที่นี้สามารถเดินไปเที่ยว " ป้อมผีเสื้อสมุทร " ต่อได้ (อยู่ติดกัน) โดยทางเข้า ป้อมผีเสื้อสมุทร ตึกทางขึ้นสะพานค่อนข้างเงียบเหงา รกร้าง เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยวพอสมควร ... แนะนำไปช่วงสายๆ จะได้พอมีนักท่องเที่ยวบ้าง 


สะพานแขวนเหล็กข้ามไปอีกฝั่ง


พอลงสะพานก็ต้องเดินไปตามถนนที่เห็นในรูปนี้ไปจนสุดทางเลย


มองย้อนกลับมาถ่ายรูปสะพานแขวนเหล็กที่เดินข้ามมาตะกี้


ทางเดินร่มรื่นมาก แต่ก็เปลี่ยวมากพอสมควรตามไปด้วย โดยเป็นเส้นทางป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 500 เมตร


ทางเข้าป้อมผีเสื้อสมุทร โดยปัจจุบันอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ


ตัวป้อมผีเสื้อสมุทร


มีอยู่หลายป้อมครับ


ปืนเสือหมอบ


อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์


ด้านหลังป้อมผีเสื้อสมุทร มีสะพานชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา


เห็นหอชมเมืองสมุทรปราการอยู่ฝั่งตรงข้าม ... ซึ่งจะเป็นจุดหมายท่องเที่ยวถัดไปของเรา


จุดเช็คอินไฮไลท์ถัดมา คือ "หอชมเมืองสมุทรปราการ" พร้อมชมนิทรรศการ "ร้อยเป็นเรื่อง เมืองปากน้ำ" ที่เป็นแบบ Interactive เสมือนเราอยู่ในเหตุการณ์จริง ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดครับ !!

     โดยส่วนตัวให้คะแนนเต็มสิบ ประทับใจไม่แพ้หอคอยชมเมืองของต่างประเทศที่เคยไปมาเลย ไม่ว่าจะเป็น Tokyo Tower / Sapporo TV Tower (ญี่ปุ่น) , N Seoul Tower (เกาหลีใต้) , ตึกไทเป 101 (ไต้หวัน)

     ที่นี่ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ (มีรถเข็นให้ยืม) สามารถเที่ยวได้อย่างสะดวกปลอดภัย (Universal Design)

เพจ Facebook ทางการ : https://www.facebook.com/หอชมเมืองสมุทรปราการ-110627868386498

วันเวลาทำการ : ปิดวันจันทร์ นอกนั้นเปิดบริการตลอด (วันหยุดราชการก็เปิด) เวลา 10:00 - 17:00 น.

รอบนิทรรศการ : รอบสุดท้าย 15.00 น. กลุ่มละประมาณ 20 คน ใช้เวลาชม 2 ชม. (ต้องจองรอบก่อน)

ค่าเข้าชม : ฟรี (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2566)

การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงที่ "สถานีปากน้ำ" ได้เลย เดินต่อไม่ไกล หรือจะขับรถส่วนตัวไปก็สะดวก มีที่จอดรถให้ครับ


หอชมเมืองสมุทรปราการ จุดชมวิวจะมีอยู่ 2 จุด คือ

- ชั้นที่ 23 จะเป็นจุดชมวิวหลัก สามารถชมวิวตัวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 360 องศา

- ชั้นที่ 25 จะเป็นนิทรรศการหมุนเวียน แต่ก็สามารถเดินชมวิวโดยรอบได้เช่นกัน

- ชั้นที่ 1 จะเป็นจุดลงทะเบียนในการเข้าชมนิทรรศการ "ร้อยเป็นเรื่อง เมืองปากน้ำ"


บริเวณลานด้านหน้าจะเป็นสวนสาธารณะ Dinosaurs Prakarn Bay Park 


มีไดโนเสาร์จำลองหลากหลายสายพันธุ์เลย


ตัวใหญ่มาก ขนาดน่าจะใกล้เคียงของจริงเลย


สามารถเดินชมถ่ายรูปได้อิสระเลย


รถจักรไอน้ำ M.R.C หมายเลข 2

... เส้นทางรถไฟสายแรกของไทย คือ ปากน้ำ (สมุทรปราการ) - หัวลำโพง ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 ...


วิวแม่น้ำเจ้าพระยา จากจุดชมวิวชั้นที่ 25 โดยที่ชั้นนี้จะมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนกันไป เช่นตอนที่ไปก็เป็น "นิทรรศการเรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่"


พระสมุทรเจดีย์ ที่เราได้ไปเยี่ยมชมมาก่อนหน้า


ป้อมผีเสื้อสมุทร นั่นเอง


รถไฟฟ้า BTS สถานีปากน้ำ


จุดชมวิว 360 องศา ที่ชั้น 23


มีป้ายบอกจุด Landmark หลักๆด้วย


กิจกรรมถัดมา คือ เข้าชม นิทรรศการ "ร้อยเป็นเรื่อง เมืองปากน้ำ" โดยมีทั้ง 6 โซน คือ

(1) ปากน้ำเมื่อนานมา = นั่งเครื่อง Ship Time Machine Simulator เสมือนล่องเรือชมสมัยอดีตของสมุทรปราการ ** ประทับใจที่สุด เป็นเครื่องจำลองการนั่งเรือจริงๆเลยครับ **

(2) เข้าท่าเมืองหน้าด่าน = จำลองบรรยากาศย่านคลังสินค้านิวอัมสเตอร์ดัมของชาวฮอลันดา ที่เข้ามาค้าขายกับไทยสมัยอยุธยา

(3) ปรากฏเป็นปราการ = จำลองบรรยากาศกำแพงป้อมปราการ ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์

(4) ปราการป้องแผ่นดิน = จำลองเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ไทยต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส ในสมัยรัตนโกสินทร์ และชมปืนเสือหมอบจำลอง (ปืนกระบอกจริงในป้อมพระจุลจอมเกล้า) และเล่าเรื่องรถไฟสายปากน้ำ ซึ่งเป็นทางรถไฟสายแรกของสยาม

(5) หน้าด่านสานเศรษฐกิจ = เล่าถึงการที่สมุทรปราการสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรม ด้วยสื่อนำเสนอหลายรูปแบบ

(6) มอง (กาล) ไกลไปด่านหน้า = มีกระเช้าไฟฟ้าจำลอง พร้อมชมผังเมืองสมุทรปราการ (ในอนาคตมีโครงการจะสร้างกระเช้าไฟฟ้า นั่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งปากน้ำไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์)


เครื่อง Ship Time Machine Simulator .. ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของนิทรรศการนี้เลย


เหมือนได้นั่งเรือจริงๆเลยครับ เรือมีการโยกตามคลื่นน้ำด้วยนะ


บรรยากาศ "เมืองนิวอัมสเตอร์ดัม" ที่พ่อค้าต่างชาติเรียกเมืองปากน้ำ บริเวณปากคลองบางปลากด ของไทยเรานั่นเอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองท่าการค้าสมัยอยุธยา


เรือสำเภาจำลองจากประเทศต่างๆ ที่เข้ามาทำการค้ากับไทยในสมัยนั้น


เล่าเรื่องการสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ และเมืองสมุทรปราการ ด้วยเทคนิค Invisible Fortress 


มีเมืองจำลองวิถีชีวิตของผู้คนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชน ในสมัยนั้น 


ร้านยาจีนโบราณ


จำลององค์พระสมุทรเจดีย์เดิมที่ซ่อนอยู่ภายในพระสมุทรเจดีย์องค์ปัจจุบัน


ชมภาพยนตร์จำลองเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ไทยต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส โดยมีปืนเสือหมอบที่จำลองมาจากปืนกระบอกจริงในป้อมพระจุลจอมเกล้า


รถไฟสายปากน้ำ ซึ่งเป็นทางรถไฟสายแรกของไทย ดำเนินการโดย กอมปานีรถไฟ หรือ บริษัทรถไฟปากน้ำทุนจำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนชาวเดนมาร์ก - เบลเยียม


สมัยก่อนตรงนี้เป็น "เรือนจำนักโทษ" มาก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีการถมที่สูงมากขึ้นจนเกือบจะถึงป้อมเรือนจำเลย


เล่าเรื่องการเป็นเมืองอุตสาหกรรม ของ จ.สมุทรปราการ ในปัจจุบัน


จุดสุดท้าย จะมีกระเช้าไฟฟ้าจำลอง (เจ้าหน้าที่จะให้แค่บางคนได้ทดลองขึ้นนั่ง เช่น เด็ก) 


เป็นทางเดินกระจกแก้วชมผังเมืองสมุทรปราการ


จุดเช็คอินสุดท้าย ... " บางกระเจ้า " ถือว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ เพราะมีพื้นที่สีเขียวกว่า 12,000 ไร่

> กิจกรรมยอดฮิตของที่นี่คือ " การปั่นจักรยานที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ " เพราะมีต้นไม้ร่มรื่นมาก ไม่ร้อนแดดเลย

- ด้านหน้าสวนศรีนครฯ จะมีจุดรับฝากรถยนต์และให้เช่าจักรยาน ราคาเหมา 40 บาท/วัน (ต้องนำจักรยานมาคืนก่อน 18:00 น.)

- ภายในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์จะอนุญาติให้แค่รถจักรยานเข้าไปได้เท่านั้น และมีร้านอาหารแค่จุดเดียว มีอาหารขายไม่เยอะ

- ถ้าท้องฟ้ามืดควรรีบกลับ เพราะภายในสวนจะมืดและเปลี่ยวมาก

ข้อควรรู้

     ถ้าไปหาอ่านรีวิวตามเว็บอื่นๆ ส่วนมากจะบอกให้เช่าจักรยานปั่นไปรอบคุ้งบางกระเจ้าเลย แต่ในความเป็นจริงคือ การปั่นจักรยานแบบนั้นค่อนข้างอันตราย เพราะถนนแคบมาก รถยนต์วิ่งค่อนข้างเร็ว เป็นถนนเลนสวนไป-กลับทำให้ Bike Lane ไม่สามารถใช้งานได้จริง ดังนั้นแนะนำว่าควรปั่นอยู่แค่ในบริเวณสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ก็พอครับ ส่วนร้านค้าอื่นๆนอกสวนศรีนครฯ บางทีก็ไม่มีที่จอดรถยนต์ แต่ส่วนมากจะมีที่จอดรถยนต์ไม่เยอะ ดังนั้นควรวางแผนล่วงหน้าให้ดีครับ


ภายในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ บริเวณทางเข้าเลย


จุดที่ต้องปั่นจักรยานไปที่แรก คือ "สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา"


เดินข้ามสะพานไม้ไปไม่ไกล แล้วก็เดินกลับมาที่เดิม :D


ปั่นจักรยานชมสวนสาธารณะไปเรื่อยๆ สนุกมากครับ


จุดถัดไปที่ต้องแวะปั่นไป "หอดูนก" (ปั่นตามป้ายบอกทางไป ทางเข้ามีต้นไม้บัง สังเกตดีๆ)


เดินขึ้นไป ก็จะมีโอกาสเห็นนกใกล้ชิดมากขึ้น (แต่ตอนที่ไปไม่เห็นเลยซักตัว)


เส้นทางที่จะปั่นไปหอดูนก ... แนะนำว่าถ้าท้องฟ้ามืดไม่ควรไป ค่อนข้างเปลี่ยวทีเดียว


ขากลับ แวะซื้อขนมของฝากที่ " ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง " ด้านหน้าตลาดมีที่จอดรถยนต์อยู่ครับ


ร้านอาหาร + ขนมเยอะมาก


Copyright © 2566 - 2568. All rights reserved.