จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสมญานามว่า "เมืองสามหมอก" ความหมายคือ เพราะว่าเมืองนี้มีหมอกปกคลุมตลอดทั้ง 3 ฤดู ได้แก่
(1) หมอกน้ำค้าง ในฤดูหนาว
(2) หมอกควันไฟป่า ในฤดูร้อน
(3) หมอกฝน ในฤดูฝน
การเดินทาง
การเดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอน ที่ใช้เวลาน้อยที่สุด คือ นั่งเครื่องบินลงที่สนามบินแม่ฮ่องสอน แต่ว่า ณ ปัจจุบัน (พฤศจิกายน 2565) มีเพียงสายการบินเดียว คือ นกแอร์ และมีบินไม่ทุกวัน วันไหนมีตารางบินก็มีเพียง 1 เที่ยวบินช่วงบ่ายเท่านั้น ราคาตั๋วก็ค่อนข้างแพง
ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนมากยอมบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ แล้วเช่ารถยนต์ขับไป โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 (ถนนสายแม่มาลัย-ปาย) ซึ่งกรมทางหลวงดูแลอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผิวถนนค่อนข้างดีตลอดเส้นทาง มีระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะถนนคดเคี้ยวมาก มีจำนวนโค้ง 2,224 โค้ง !!
การจองโรงแรมที่พัก
ควรลองสำรวจราคาจาก Agoda.com , Booking.com และการจองโดยตรงกับโรงแรมที่พัก เพราะที่ได้เปรียบเทียบมาพบว่าการจองผ่าน Agoda.com ราคาถูกกว่าจองโดยตรง , มี Cashback คืนเข้าบัตรเครดิตให้ และอาจยังไม่ต้องชำระเงินในทันทีด้วย
>> แต่เพื่อความมั่นใจเมื่อจองห้องพักเสร็จแล้ว ควรโทรศัพท์ไปหาโรงแรมโดยตรง เพื่อยืนยันการจองอีกทีว่าโรงแรมได้รับข้อมูลการจองห้องพักของเราเรียบร้อยแล้วจริงไหม ? เพราะบางโรงแรมอาจไม่ได้มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในระบบการจอง Agoda , Booking ครับ
>> ดาวน์โหลด แพลนการเดินทางและแผนที่ในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด คลิกที่นี่ครับ !! <<
>> คลิกอ่านรีวิวเที่ยวแม่ฮ่องสอน - เชียงใหม่ ทั้งหมดได้ที่ <<
ตอนที่ 1 : เตรียมตัวเดินทาง และเช่ารถยนต์ขับเองจากสนามบินเชียงใหม่
ตอนที่ 2 : เที่ยวตัวเมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ตอนที่ 3 : เที่ยวปางอุ๋ง - บ้านรักไทย - สะพานซูตองเป้
ตอนที่ 4 : เที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ชมทะเลหมอกหยุนไหล
ตอนที่ 5 : เที่ยวในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ (ครึ่งวัน)
ดาวน์โหลดไฟล์แนบ คลิ๊กที่นี่ !!
เทคนิคการเลือกที่นั่งเครื่องบิน
หากใครต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง แบบไม่โดนปีกเครื่องบินบังวิว มีเทคนิคคือ
(1) ค้นหาผังที่นั่งของเครื่องบินของสายการบินต่างๆ โดยแบ่งตามรุ่นเครื่องบิน จากเว็บไซต์ https://seatmaps.com/airlines หรือ https://airseatmap.com/en/airlines
(2) ที่หน้าจอตอนเลือกจองที่นั่งบนเครื่องบิน ให้เอาผังที่นั่งมาลองเปิดเทียบดูกับเว็บไซต์ในข้อ (1) อีกที ว่าที่นั่งโดนปีกบังวิว , ใกล้ประตูทางออก หรือมีอะไรพิเศษ รึเปล่า ?
> ราคา 99 บาท
> ราคา 200 บาท
แนะนำบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ
ถ้าสมัครใหม่ครั้งแรก จะได้รับคูปอง โหลดกระเป๋า , ที่นั่ง Hot Seat , น้ำ/กาแฟ แก้วเล็กฟรี ซึ่งคูปองจะถูกจัดส่งมาพร้อมบัตรเครดิตเลย และสามารถนำมาใช้ได้เลย เพียงยื่นคูปองพร้อมแสดงบัตรเครดิตให้ดูตอน Check-in ที่เคาร์เตอร์เท่านั้น ส่วนปีถัดๆไป ถ้าอยากได้คูปอง ก็ต้องใช้จ่ายเงินให้ครบตามเงื่อนไข ซึ่งก็ต้องใช้จ่ายค่อนข้างสูงพอสมควรครับ
แต่สิทธิพิเศษที่ได้ฟรีตลอดจริงๆ และได้ลองมาแล้วว่าใช้ได้จริง (เฉพาะสายการบิน AirAsia) คือ
(1) บริการเคาน์เตอร์เช็คอินพิเศษ คือ สามารถใช้เคาน์เตอร์เช็คอินเดียวกับกลุ่มลูกค้าที่จองตั๋วแบบ Premium Flex เลย ซึ่งจะมีคิวยาวน้อยกว่าปกติ
(2) บริการขึ้นเครื่องก่อนใคร คือ ได้ขึ้นเครื่องพร้อมลูกค้าที่นั่ง Zone 1 เช่น Hot Seat เลย แต่เวลาลงเครื่องก็ลงตามคิวแถวที่นั่งปกตินะ
(3) บริการรับกระเป๋าก่อนใคร คือ กรณีโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง จะมีป้าย Xpress Baggage แปะให้ ทำให้กระเป๋าออกมาถึงสายพานก่อนลูกค้าที่ซื้อตั๋วแบบปกติ
> ราคา 220 บาท
> ราคา 49 บาท
การเช่ารถยนต์
ควรเลือกรถยนต์ที่มีสภาพใหม่ เพราะถนนขึ้นเขาลงเขาตลอด ถ้ารถเสียกลางทางอาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งการเช่ารถยนต์ มี 2 แบบ คือ
(1) เช่ากับบริษัทรถเช่ารายใหญ่ เช่น Avis , Hertz , Budget Car Rental
ข้อดี
1.) ไม่ต้องจ่ายเงินมัดจำ สามารถไปชำระเงินวันรับรถได้เลย , ยกเลิกการจองได้ฟรี
2.) ส่วนมากมี Office ในสนามบินเลย มั่นใจไม่โกง
3.) รับบัตรเครดิต
ข้อเสีย
1.) ส่วนมากจะระบุเป็นรถยนต์ Level ไหนเท่านั้น ไม่สามารถเลือกยี่ห้อรุ่นได้ตามใจ
2.) ราคารวมแพงกว่า ต้องซื้อประกันภัย ยิบย่อยๆ เพิ่มเอง (ไม่บังคับ)
3.) อายุการใช้งานรถประมาณไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถระบุแน่ชัดให้ได้ (ซึ่งก็เก่าแล้วนะ รถยนต์ส่วนมากหมดประกันตอน 3 ปี)
4.) ต้องมีบัตรเครดิตเท่านั้น ถ้าไม่มีจะเช่าไม่ได้เลย เพราะจะมีการ Lock วงเงินประมาณ 7,000+ บาทไว้ โดยจะได้คืนกลับมาหลังจากคืนรถแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนั้นระหว่างนี้ถ้าเขาพบว่ารถมีปัญหา จะยังสามารถมาหักเงินในบัตรเครดิตเราได้อยู่นะ !!
(2) เช่ากับบริษัทเล็ก/บุคคลทั่วไป เช่น ค้นหาตามเพจ Facebook , www.drivehub.co [
ข้อดี
1.) สามารถเลือกยี่ห้อ / รุ่น / ปีรถ ได้
2.) ไม่ใช้บัตรเครดิต ใช้เงินสดได้เลย โดยส่วนมากจะมัดจำไว้ 3,000 บาท พอเอารถมาคืน ก็รับเงินมัดจำคืนมาได้เลย
ข้อเสีย
1.) หลายที่จะเก็บเงินมัดจำการจองไว้ที่ 1,000 บาท ขอคืนไม่ได้ (แต่ที่ผมเช่าด้วย เขาไม่เก็บเงินมัดจำการจองเลยครับ :D)
2.) ต้องนัดรับ/คืนรถ บริเวณลานจอดรถสนามบิน ถ้าโชคร้ายก็อาจโดนเบี้ยวหาย/โกง หรือได้รถยนต์ไม่ตรงปก
รีวิวการขอ Agoda แคชแบ็กรีวอร์ด คืน
ใครที่เคยจองห้องพักกับ Agoda อาจจะเคยสับสนเรื่องราคา ว่าทำไมมีตัวเลือกให้จองให้เลือกมากมาย ? บางทีแสดงราคาห้องพักที่หรูกว่า ในราคาที่ถูกกว่าห้องพักทั่วไปซะอีก !!??
สาเหตุหลักๆ คือ ...
(1) เป็นราคาที่ยังไม่รวม Service Charge และ VAT แต่หักลบ "แคชแบ็กรีวอร์ด" แล้ว
(2) เงื่อนไขการยกเลิกการจองห้องพัก
>> ในทีนี้จึงมารีวิวขั้นตอนการขอคืน Agoda แคชแบ็กรีวอร์ด
(1) การคืนเงินจะคืนเข้าบัตรเครดิต
(2) ต้องรอประมาณ 2 เดือนหลังวันเข้าพัก ถึงสามารถส่งคำร้องขอเงินคืนได้ (ต้องโหลดแอพ Agoda บนมือถือเท่านั้น ถึงกดปุ่มขอเงินคืนได้)
(3) หลังจากส่งคำร้องไปแล้ว ใช้เวลาประมาณ 2-7 วัน เงินจะคืนกลับเข้ามาในวงเงินบัตรเครดิต
> ราคา 29 บาท
> ราคา 150 บาท















