วันนี้พาทุกท่านเจาะเวลาหาจิ๋นซี ... ย้อนอดีตกลับไปก่อนคริสตกาล (246 ปีก่อนคริสตกาล) ชม " สุสานกองทัพทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ " ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี

> มีอะไรที่น่าสนใจ ?

จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือ จิ๋นซีสื่อหวงตี้ เป็นผู้สร้างกองทัพทหารดินเผา ที่มีทหารกว่า 8,000 ตัว ที่มีลักษณะใบหน้าแตกต่างกัน รวมถึงม้า รถม้า และอาวุธที่ทำด้วยดินเผา

> วัตถุประสงค์ ?

ปกป้อง จิ๋นซีฮ่องเต้ ในชีวิตหลังความตาย เพื่อให้จักรพรรดิได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามในโลกหลังความตายเหมือนกับที่เขาได้รับการปกป้องในโลกนี้

> มีอะไรเที่ยว ?

มีหลุมขุดค้นอยู่ 3 Pit หลักๆ ที่เปิดให้เยี่ยมชมกองทัพทหารดินเผา ที่มีทั้ง ทหาร , ม้า และอาวุธต่างๆ

นอกจากนี้บริเวณข้างๆยังมี " สุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ " ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการขุดอย่างเต็มที่ เนื่องจากความเชื่อเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากสารพิษในสุสาน และความยากลำบากในการรักษาของโบราณคดีในสุสานนี้ แต่ก็มีให้เปิดเข้าไปชมแค่บริเวณภายนอกเท่านั้น

> วิธีการเดินทาง ?

1.) นั่งรถไฟฟ้าลงที่ " สถานี Huaqing Pool (LINE 9) " ทางออก C หรือ A

2.) พอขึ้นมาจากสถานี จะเจอรถบัสเบอร์ 613 จอดรออยู่ ค่าตั๋ว 5 หยวน/คน (Scan จ่ายด้วย Alipay สะดวกสุด)

3.) รถจะจอดที่ป้ายรถเมล์ด้านหน้าทางเข้า ของสุสานกองทัพทหารดินเผาฯ (ส่วนขากลับ รถบัสจะจอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกันนี้เอง)

** ความจริงวิธีการเดินทางด้วยรถสาธารณะมีรถบัสให้ขึ้นได้หลายจุด เช่น ขึ้นรถบัสจากในตัวเมืองก็ยังมี แต่วิธีการที่บอกไปอันนี้ผมได้เดินทางไปเอง และยืนยันว่าไปได้จริง **

** บางคนอาจใช้วิธีเรียก Taxi (เรียกผ่านแอพ DiDi ก็ได้) จากในตัวเมืองซีอาน ให้ไปส่งที่ สุสานกองทัพทหารดินเผาฯ โดยตรงเลยก็ได้ ถ้าไปกันหลายคนจะคุ้มกว่า (ค่า Taxi ที่ทราบมาประมาณ 600 บาท/เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) **

>> ข้อมูล ณ ตุลาคม พ.ศ.2567

>> คลิกอ่านรีวิวเที่ยว เมืองซีอาน-ลั่วหยาง ประเทศจีน ทั้งหมดได้ที่ <<

ตอนที่ 1 : เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

ตอนที่ 2 : โรงแรม Holiday Inn Express Xi'an Bell Tower และ Holiday Inn Express Luoyang City Center

ตอนที่ 3 : เที่ยวกลางเมือง Xi'an - หอระฆัง/หอกลอง - ถนนคนเดินมุสลิม หุยหมินเจีย - กำแพงเมืองซีอาน (Xi'an City Wall)

ตอนที่ 4 : เจาะเวลาหาจิ๋นซี @ สุสานกองทัพทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ (Terracotta Warriors)

ตอนที่ 5 : เที่ยวถ้ำผาหลงเหมิน (Longmen Grottoes) แห่งเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน

ตอนที่ 6 : เที่ยวศาลเจ้ากวนอู (Guanlin Temple) - เมืองเก่าลี่จิงเหมิน (Lijingmen) เมืองลั่วหยาง

ตอนที่ 7 : เที่ยววัดเส้าหลิน (Shaolin Temple) แห่งเมืองเติงเฟิง ประเทศจีน

ตอนที่ 8 : เที่ยวเจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Giant Wild Goose Pagoda) ตามรอยพระถังซัมจั๋ง


ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่ " สถานี Huaqing Pool (LINE 9) " ทางออก C หรือ A ก่อน

> ดูแผนที่รถไฟฟ้าที่ https://www.ontourwithme.com/fileattachs/14112024125425_0.pdf


พอขึ้นบันไดเลื่อนมาจากสถานี ก็จะเห็น รถบัสเบอร์ 613 จอดรออยู่เลย แนะนำให้ Scan จ่ายผ่าน Alipay สะดวกกว่าครับ

นั่งรอในรถไม่นาน ก็ล้อหมุนออกเดินทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที


หน้าทางเข้าจะมี รูปปั้นของจิ๋นซีฮ่องเต้ อยู่


ให้มาซื้อตั๋วที่ภายในอาคารนี้ก่อน

> คนมาซื้อตั๋วที่อาคารนี้น้อยมาก เพราะคนจีนส่วนมากไปซื้อตั๋วแบบ Online กันแล้ว


พอได้ตั๋วแล้วก็เดินมาต่อคิวที่ทางเข้า เพื่อตรวจตั๋ว


ภายในจะมีอาคารให้เยี่ยมชมหลักๆ อยู่ 3 อาคาร เรียกว่า Pit 1 , Pit 2 และ Pit 3

ในปี พ.ศ.2517 ชาวนากลุ่มหนึ่งที่กำลังขุดบ่อน้ำ ได้ขุดพบชิ้นส่วนของรูปปั้นดินเผาและเศษซากต่างๆ หลังจากนั้น ทางการจีนได้ส่งนักโบราณคดีมาสำรวจพื้นที่ จนกระทั่งค้นพบว่าเป็นส่วนหนึ่งของสุสานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่จักรพรรดิ จิ๋นซีฮ่องเต้ ตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล (246 ปีก่อนคริสตกาล)


เราแวะมาที่ Pit 1 (หลุมขุดที่ 1) ก่อน

> หลุมนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นไฮไลต์สำคัญ เพราะมีรูปปั้นทหารดินเผาและม้าศึกมากกว่า 6,000 ตัว ในรูปแบบกองทัพพร้อมรบ


ภายในจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ นักเรียน นักศึกษาของจีนก็มาทัศนศึกษาที่นี่กันเยอะ

> แนะนำให้มาเที่ยวที่นี่วันธรรมดา (ผมไปวันอังคาร คนยังเยอะมากๆ) หลีกเลี่ยงไปช่วงเทศกาล หรือวันหยุด


Pit 1 ทหารส่วนใหญ่เป็นทหารราบและมีการจัดตำแหน่งเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ


ทหารแต่ละตัวถืออาวุธ เช่น หอก ดาบ และโล่ บางส่วนมีธนู แต่ก็ดูเสียหายไปเยอะตามกาลเวลา

*สังเกต*

หน้าตาของรูปปั้นแต่ละตัวจะไม่เหมือนกันเลย เนื่องจากแต่ละรูปปั้นได้รับการสร้างขึ้นอย่างละเอียด เพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์ตามตำแหน่งและลักษณะของทหารในกองทัพ ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม , ใบหน้า , ชุดเครื่องแบบและอาวุธ


บริเวณด้านหลังของ Pit 1 นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในการบูรณะและซ่อมแซมรูปปั้นทหารดินเผาที่พบ


มีซ่อมอยู่เยอะมากเลย


นักโบราณคดียังซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา 


Pit 1 อีกมุมหนึ่ง


มาต่อกันที่ Pit 2 ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน


Pit 2 ถือเป็นกองกำลังที่หลากหลายที่สุดเมื่อเทียบกับ Pit อื่นๆ คือมีทั้ง พลธนู , ทหารม้า , ทหารราบ


ส่วนใหญ่ของ Pit 2 ยังไม่ได้ขุดค้น


หุ่นทำจากดินเหนียว สร้างขึ้นด้วยการหล่อเป็นส่วนๆ เช่น ศีรษะ แขน ขา และลำตัว จากนั้นนำมาประกอบเข้าด้วยกัน มีรายละเอียดสมจริงมาก ขนาดดอกพื้นรองเท้า หรือ ลายตะเข็บและรอยพับของเสื้อผ้า ยังมีเลย

เดิมทีรูปปั้นเหล่านี้ถูกทาสีอย่างสดใส แต่เมื่อขุดขึ้นมาสัมผัสอากาศ ทำให้สีซีด หลุดลอกภายในไม่กี่ชั่วโมงเลย

ปล. ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทางการยังไม่ขุดเพิ่มเติมมาก เพราะยังต้องรอเทคโนโลยีในโลกอนาคตที่พัฒนาไปมากกว่าวันนี้


สีที่ใช้ในรูปปั้นทหารดินเผา มีความหลากหลายตามลักษณะและตำแหน่งของทหาร เช่น

สีแดง = รายละเอียดของอาวุธ เช่น ดาบและโล่ รวมถึงการทาหลายๆ ส่วนที่เป็นส่วนสำคัญในชุดเกราะและเครื่องแต่งกาย

สีเขียว = มักใช้ในส่วนของเครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อเกราะหรือเสื้อคลุมของทหาร


Standing Archer หรือ ทหารธนูในท่ายืน โดยจะยืนในท่าพร้อมยิงธนู โดยมือขวาจับคันธนูและมือซ้ายรองรับลูกธนู ซึ่งแสดงถึงท่าทางการยิงธนูในสนามรบ


ทหารม้า (Cavalryman) กับม้าศึก ที่เตรียมพร้อมสำหรับการรบ


ม้าศึก ที่มีการจัดเตรียมอานสู้ มีรายละเอียดสมจริงมาก


เก็บรายละเอียดได้สมจริงในทุกมิติ


Middle Ranking Officer (เจ้าหน้าที่ระดับกลาง) รูปปั้นนี้แสดงถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่มีตำแหน่งสูงกว่าทหารธรรมดา แต่ยังต่ำกว่านายพลหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง (High Ranking Officer)

โดยมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและควบคุมกองกำลังในสนามรบ รวมถึงการเป็นผู้นำกลุ่มทหารในลำดับชั้นกลาง มักถือ ดาบสั้น หรือ หอก ซึ่งเป็นอาวุธที่สะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำที่ไม่ต้องเข้าต่อสู้โดยตรงเหมือนทหารทั่วไป


High Ranking Officer (เจ้าหน้าที่ระดับสูง) เป็นตัวแทนของผู้นำระดับสูงในกองทัพที่มีอำนาจและความรับผิดชอบในการวางแผนยุทธศาสตร์และการตัดสินใจในสนามรบ

รูปปั้นเหล่านี้มีความโดดเด่นในด้านเครื่องแต่งกาย ท่าทาง และการออกแบบที่แสดงถึงความเป็นผู้นำและสถานะสูงสุดในกองทัพ


Kneeling Archer (พลธนูคุกเข่า) รูปปั้นนี้แสดงถึงทหารที่มีบทบาทสำคัญในกองทัพในฐานะ พลธนู ซึ่งถูกออกแบบมาให้อยู่ในท่าคุกเข่า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยิงธนูจากตำแหน่งป้องกัน


จุดถัดไป Pit 3 ซึ่งก็ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน ...

Pit 3 เป็นหลุมที่เล็กที่สุด แต่มีความสำคัญอย่างมากในเชิงสัญลักษณ์และหน้าที่ในโครงสร้างกองทัพของจักรพรรดิ จิ๋นซีฮ่องเต้ หลุมนี้มักถูกเรียกว่า "กองบัญชาการ" (Command Center)

นอกจากนี้ยังพบหลักฐานของกระดูกสัตว์และวัตถุอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าหลุมนี้ อาจถูกใช้ในการประกอบพิธีกรรมเพื่อขอพรหรือแสดงความเคารพต่อทวยเทพ


ที่หลุมนี้ส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นของ เจ้าหน้าที่ระดับสูง และ พลธนู


นอกจาก Pit 1-3 แล้ว ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการด้วย


ประเภทของรูปปั้นทหารดินเผา ในสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้


แสดงขั้นตอนในการผลิตรูปปั้นทหารดินเผา ซึ่งมีการผสมผสานทั้งการใช้เทคนิคแม่พิมพ์สำหรับการผลิตจำนวนมาก และการตกแต่งด้วยมืออย่างประณีตเพื่อให้แต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


หลังจากประกอบร่างกายเสร็จสิ้น จะมีการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ เช่น เสื้อผ้า อาวุธ และใบหน้า

เมื่อทำเสร็จแล้วจะนำทหารดินเผาเข้าเตาเผาในอุณหภูมิสูงประมาณ 950-1050 องศาเซลเซียส เพื่อเผาให้ดินแข็งตัวและคงรูป

บางครั้งอาจมีการลงสีเพิ่มเติมบนผิวของทหารดินเผาเพื่อเพิ่มความสวยงามและสมจริงยิ่งขึ้น


รูปปั้นดินเผาอื่นๆ ที่พบในสุสานแห่งนี้


มีรูปปั้นนกด้วย


มีวีดีโอคลิปสั้นๆให้ชม


แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ในยุคนั้น


บริเวณทางออก จะมีร้านขายอาหาร ขายขนม ของทีระลึกมากมาย เดินกันไกลพอสมควรเลยทีเดียว


ถ้าเห็นแล้วอยากซื้อขนมของฝากชิ้นไหน แนะนำให้ซื้อตรงนี้เลย ไม่ต้องไปรอซื้อที่สนามบิน หรือที่ไหนอีก เพราะออกจากที่นี่ไปจะหาซื้อขนมแบบนี้ยากมากครับ


ขากลับเราก็เดินกลับไปขึ้น รถบัสเบอร์ 613 ซึ่งจะจอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกับที่รถบัสจอดส่งเราตอนขามา

โดยรถบัสจะผ่าน " สถานี Huaqing Pool (LINE 9) " ที่เดียวกับตอนขามานั่นเอง


บริเวณสถานีรถไฟฟ้านี้ จะมี " รูปปั้นหยางกุ้ยเฟย " ซึ่งเป็น สี่หญิงงามแห่งประวัติศาสตร์จีน ถึงกับมีคำกล่าวกันว่า "ดอกไม้ยังต้องอายเมื่อได้เห็นความงามของพระนาง"

นอกจากนั้นยังสะท้อนถึงเรื่องราวความรักที่โด่งดังระหว่างพระนาง กับ จักรพรรดิถังเสวียนจง (Tang Xuanzong)

** 4 หญิงงามแห่งประวัติศาสตร์จีน ** ได้แก่

(1) ไซซี
(2) หวังเจาจวิน
(3) เตียวเสี้ยน ในยุคสามก๊ก
(4) หยางกุ้ยเฟย ที่เป็นพระสนมเอก ของจักรพรรดิถังเสวียนจง


Copyright © 2566 - 2568. All rights reserved.